กรณีศึกษา “Salad Factory” สร้างความสำเร็จจากช่องว่างตลาด

ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นแนวคิดทำร้านอาหารสไตล์สุขภาพ

ถ้าพูดถึงอาหารเพื่อสุขภาพหลายๆ คนคงนึกถึงอาหารคลีน อาหารที่มีแต่ผักเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีบางคนที่อยากมีสุขภาพดี อยากทานอาหารที่มีประโยชน์โดยไม่ต้องทานแต่ผักเพียงอย่างเดียว ซึ่งคุณกอล์ฟ (ปิยะ ดั่นคุ้ม) เจ้าของร้านSalad Factory ก็เป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่า “นิยามความหมายของอาหารเพื่อสุขภาพมีมากกว่าแค่การทานผัก” ด้วยมองเห็นช่องว่างความต้องการของผู้บริโภคตลาดคลีนฟู้ดนี้ บวกกับความต้องการของตัวเองอยากทานอาหารสุขภาพที่มีมากกว่าผักจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการทำร้านสลัดที่ไม่ใช่มีเพียงแค่สลัดเท่านั้น มาติดตามกันว่า การสร้างโอกาสธุรกิจร้านอาหารสไตล์คนรักสุขภาพของSalad Factory มีที่มา และการบริหารจัดการให้สำเร็จอย่างไร

 

 

ทำไมคนไทยไม่ได้กินของดีๆ ทั้งที่เป็นคนปลูกเอง

 

ครั้งหนึ่งคุณกอล์ฟเคยไปเรียนปริญญาโทที่เมืองนอกและได้มีโอกาสทำงานพิเศษที่ร้านอาหาร โดยเริ่มตั้งแต่เป็นเด็กล้างจานจนมาเป็นผู้จัดการร้าน ประมาณ 4 ปีที่อยู่ที่นั่น  ทำให้ได้เห็นวัตถุดิบแปลกๆ ซึ่งมีคุณภาพดีมาก แต่วัตถุดิบนั้น Made  in Thailand แถมมีราคาแพงมาก

 

“มันทำให้ผมอึ้งมาก แอบเจ็บใจนิดๆ วัตถุดิบดีๆ จากเมืองไทยส่งออกเมืองนอกหมด  คนไทยอย่างเราไม่เคยได้ทานของดีแบบนี้เลย ของมีคุณภาพ แค่ปรุงนิดๆหน่อยๆ ใส่เกลือ ใส่พริกไทยดำ  มันก็อร่อยแล้ว  ผมเห็นความน่าสนใจตรงนี้  ซึ่งตอนนั้นผมไม่ได้รู้เรื่องเทรนด์รักสุขภาพหรือพวกอาหารคลีนเลยนะ เพียงต้องการอยากให้คนไทยได้ทานอาหารที่มีคุณภาพดี  รสไม่จัดเกินไป  แล้วนำมาทานคู่กับผักก็เข้ากันดี  ในราคาที่ลูกค้าเข้าถึงง่าย ”

 สลัด ร้าน อาหาร

Salad Factory   โรงงานเพื่อสุขภาพ

 

จุดเริ่มร้าน Salad Factory เริ่มมาจากการที่คุณกอล์ฟได้คุยกับเพื่อนอีกสองคน โดยเพื่อนคนหนึ่งมีฟาร์มผัก อีกคนหนึ่งเป็นพ่อครัว  ส่วนคุณกอล์ฟ ที่บ้านมีธุรกิจส่งออกผลไม้อยู่แล้ว  จึงนำสามสิ่งนี้  ผัก – ผลไม้ – อาหาร มารวมกันจนได้ไอเดีย เป็นชื่อร้าน  Salad Factory คอนเซ็ปต์ของ Salad Factory ในแบบของคุณกอล์ฟ คือเป็น โรงงานเพื่อสุขภาพที่ให้คนทานผักมากขึ้น เป็นแหล่งผลิตอาหารที่ดี  มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ไม่ได้จำกัดแค่ผักสลัดเท่านั้น

คำว่า สุขภาพของผม คือ การทานอาหารที่มีคุณภาพดีและอร่อย ทานแล้วมีความสุข ดีต่อสุขภาพกายและจิต    

 saladfactory_5

Products ต้องทานได้ทุกวัน และทั้งครอบครัว

 

จากชื่อร้าน Salad Factory  ถือเป็นโจทย์ที่ต้องนำมาขบคิดอยู่พอสมควร ในช่วงแรกคุณกอล์ฟต้องการให้เมนูอาหารมีความหลากหลาย  ครอบคลุมคนทุกกลุ่ม  ทานได้ทั้งครอบครัว  เป็นเมนูที่สามารถทานได้ทุกวันไม่ว่าจะเป็นมื้อกลางวันหรือมื้อเย็น

 

“ คำว่า Salad  ก็บ่งบอกถึงผัก 70% แล้ว  แต่ทำยังไงไม่ให้มันน่าเบื่อ  ผมจึงพยายามคิดเมนูต่างๆ ที่ฉีกหนีจากผักเดิมๆ  โดยการนำผักชนิดต่างๆ มาเป็นส่วนประกอบของเมนูอื่นๆ  ที่ไม่ใช่เป็นผักสลัดแล้วมาคลุกกับน้ำสลัดเท่านั้น  หนึ่งครอบครัวคงไม่มีใครสั่งสลัดทุกจาน อาจจะมีสลัด  1 จาน สเต็กทีโบน  1 จาน  ยำ 1 จาน  แล้วมาแบ่งกันชิม  พื้นฐานคนไทยชอบทานอาหารที่หลากหลายอยู่แล้ว  ”

saladfactory_7

 

ปัจจุบันมีร้านสลัด  ร้านอาหารเพื่อสุขภาพเปิดใหม่มากมาย  ถือเป็นโจทย์ที่ยากขึ้นไปอีกในการคิดเมนูใหม่ๆ  คุณกอล์ฟจึงสร้างจุดเด่นด้วยการหาวัตถุดิบและผลไม้แปลกๆ มาเป็นส่วนผสมของสลัดและเมนูอื่นๆ 

 

“ผมเริ่มมองหาวัตถุดิบที่สนใจ แล้วมาดูว่าวัตถุดิบนั้นสามารถนำมาทำได้กี่เมนู ถ้าทำได้อย่างเดียวก็ไม่เอา  คือวัตถุดิบนั้นจะต้องสามารถนำไปทำเมนูอื่นๆ ได้เหมือนเป็นซีรี่ย์  เช่น หอยเชลส์  สามารถนำไปทำสลัดหอยเชลส์  ยำหอยเชลส์   ผัดหอยเชลส์ ได้  เพื่อที่วัตถุดิบนั้นจะได้ออกตลอด  ไม่ค้างในสต็อค ของจะได้สดใหม่ นอกจากนี้ต้องมาดูด้วยว่าวัตถุดิบนั้นสามารถเก็บได้นานแค่ไหน รสชาติจะเปลี่ยนรึเปล่า พ่อครัวมีความสามารถที่จะทำได้มั้ย ราคาต้นทุนของวัตถุดิบนั้นเหมาะกับราคาที่จะขายมั้ย  ถ้าแพงไปก็จะขายไม่ได้ ”

 

สร้างซิกเนเจอร์ด้วยความหลากหลายของผักออแกนิกส์

 

พระเอกของร้าน Salad Factory ก็คือผักออแกนิกส์  ฉะนั้นการคัดสรรฟาร์มผักออแกนิกส์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก  คุณกอล์ฟเล่าว่า  จากประสบการณ์เกือบ  4 ปี ที่ทำมา ทำให้รู้เลยว่า  การทำเกษตรกรรม  คือ ความไม่แน่นอน  เราจึงไม่สามารถผูกขาดกับฟาร์มใดฟาร์มหนึ่งได้  เราต้องกระจายความเสี่ยงออกมาให้มี 4 – 5 ฟาร์ม  และทำเลที่ตั้งก็ควรอยู่คนละภูมิประเทศ  เช่น  ภาคเหนือ   ภาคกลาง   ภาคตะวันออก เป็นต้น อีกทั้งยังมองหาฟาร์มผักไฮโดรโปรนิกส์สำรองเผื่อไว้ถ้าวันใดที่ผักออแกนิกส์มีไม่เพียงพอ เนื่องจากจำเป็นต้องใช้ผักมากถึง 100 กิโลกรัมต่อวันกระจายไปทุกสาขาเลยทีเดียว

 

นอกจากนี้คุณกอล์ฟยังเล่าอีกว่า  หน้าร้อนจะเป็นช่วงวิกฤตที่สุด เพราะเป็นช่วงที่ร้อนทั่วประเทศ ผักตายง่าย โดยเฉพาะภาคกลางที่มีอากาศร้อนจัดมาก  ทำให้ต้องเตรียมแผนรับมือ โดยได้พันธมิตรอย่างกลุ่มเกษตรกรม่วนใจ๋ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ รับผลิตผักออแกนิกส์คุณภาพสูงส่งมาให้ ทำให้ที่ร้านสามารถจัดการกับปัญหาวัตถุดิบหลักขาดแคลนได้

saladfactory_0

“ ผมเคยเจอปัญหาผักไม่พอ  ก็พยายามทุกวิถีทางหาผักให้ได้ เพราะเราจำเป็นต้องใช้  ผมไปที่ฟาร์มเอาผักที่นั่นเลยนะ  รวมทั้งหาฟาร์มสำรองอื่นๆ ในลิสต์ที่เราไม่ได้ซื้อด้วย ”

 

ส่วนการคัดเลือกฟาร์มผักออแกนิกส์  คุณกอล์ฟเน้นเลือกฟาร์มที่เจ้าของลงมือทำเอง  มีความรู้เรื่องการปลูกผักดีมาก  เป็นฟาร์มที่มี Story น่าสนใจ  เช่น  น้องฟาร์มของหยก เกษตรกรที่ทำฟาร์มผักออแกนิกส์อายุน้อยที่สุดในประเทศ

“น้องเป็นคนอ่างทองเหมือนผม เขาเรียนรู้จากพ่อ น้องรู้เรื่องการปลูกผักดีมาก ที่น่าทึ่งคือ เขาปลูกผักในอ่างทองซึ่งมีอากาศร้อนมากและดินไม่เหมาะแก่การปลูกผักเลย แต่น้องสามารถรู้ว่าจะผสมดินแบบไหนที่สามารถปลูกผักออแกนิกส์ได้ เขามีความเข้าใจละเอียดมาก เป็นเรื่องราวดีๆ ที่เขาปลูกผักส่งมาให้เรา และเราก็ได้ส่งต่อไปให้ลูกค้าได้ทานผักที่มาจากความใส่ใจของคนปลูก ”

 saladfactory_11

กว่าที่ร้าน Salad Factory จะอยู่บนเส้นทางความสำเร็จในทุกวันนี้ คุณกอล์ฟเคยประสบวิกฤติที่ถือว่าหนักสุดๆ ถึงขั้นคิดล้มเลิกไม่อยากทำต่อแล้ว แต่ในที่สุดเขาก็เอาชนะและสามารถทำฝันให้สำเร็จได้ ตอนหน้ามาติดตามกันต่อ


•กรณีน่าศึกษา ความสำเร็จของร้าน Salad Factory…ทำร้านอาหารใจต้องสู้! ตอนที่ 2


ร้าน  Salad Factory   

สาขา Beehive  เมืองทองธานี   โทร. 02 – 001 – 5659 

สาขา Robinson  ศรีสมาน  โทร. 02 – 501 – 5794

สาขา The Crystal  เลียบด่วนรามอินทรา   โทร. 02 – 045 – 4559

saladfactory_2


 

 

 

 

 

 

 

9eak
9eak
ทดสอบครับ

Related Articles

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

Stay Connected

0แฟนคลับชอบ
0ผู้ติดตามติดตาม
- Advertisement -spot_img

Latest Articles