“Hygiene Excellence” ใครงการดี ๆ จาก “คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค” ช่วยผู้ประกอบการร้านอาหารยกระดับมาตรฐานความสะอาดปลอดภัยระดับมืออาชีพ

ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 การให้ความสำคัญเรื่องสุขอนามัย และความสะอาดเป็นหนึ่งในมาตรการหลักที่ทั่วโลกให้การยอมรับว่าสามารถป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ได้ โดยเฉพาะสถานประกอบการอย่างร้านอาหารมาตรฐานด้านสุขอนามัยได้กลายเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจเลือกใช้บริการของลูกค้า ด้วยเห็นความสำคัญในจุดนี้ Kimberly-Clark Professional หรือ KCP (คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค โปรเฟสชั่นแนล หรือ เคซีพี) แบรนด์ผู้นำกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านสุขอนามัยระดับโลกได้จับมือกับพันธมิตรอย่างโรงเรียนการอาหารไทย เอ็ม เอส ซี และ Grab Kitchen (แกร็บ คิทเช่น) จัดทำโครงการ “Hygiene Excellence” เพื่อยกระดับมาตรฐานสุขอนามัยในธุรกิจ Food Service ให้มีความสะอาดปลอดภัยระดับมืออาชีพสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภค

“Hygiene Excellence” ยกระดับมาตรฐานความสะอาดให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร

ร้านอาหารยุค New Normal นอกจากเรื่องรสชาติ คุณภาพวัตถุดิบ บรรยากาศร้าน และงานบริการดีแล้วยัง ต้องเพิ่มมาตรฐานความสะอาดด้านสุขอนามัยเข้ามาอีก 1 ข้อเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าถือเป็นจุดขายสำคัญของร้านอาหารยุคปัจจุบัน แต่ก็ยังมีร้านอาหารอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังขาดองค์ความรู้ในการจัดการด้านสุขอนามัย ด้วยเหตุนี้บริษัท คิมเบอร์ลีย์-คล๊าค ประเทศไทย จำกัด ซึ่งมีเป็นผู้นำกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านสุขอนามัยระดับโลกอยู่แล้ว จึงมีความตั้งใจที่จะเข้ามาช่วยส่งเสริมองค์ความรู้ในจุดนี้ให้กับผู้ประกอบการร้านอาหาร จึงได้ร่วมกับพันธมิตรอย่างโรงเรียนการอาหารไทย เอ็ม เอส ซี และ Grab Kitchen (แกร็บ คิทเช่น) จัดทำโครงการ “Hygiene Excellence” ขึ้นมา

คุณศสิพงศ์ บุญแต้ม Marketing Manager

คุณศสิพงศ์ บุญแต้ม Marketing Manager บริษัท คิมเบอร์ลีย์-คล๊าค ประเทศไทย จำกัด ได้เล่าที่มาของโครงการนี้ให้ฟังว่า “จุดเริ่มต้นของโครงการนี้มาจากการที่เรามองเห็นความสำคัญเรื่องความสะอาดในธุรกิจ Food Service โดยเฉพาะกับสถานการณ์ปัจจุบันเรื่องความสะอาดยิ่งต้องยกระดับความสำคัญ ซึ่งทางคิมเบอร์ลีย์-คล๊าคเราเป็นผู้นำในตลาดสินค้าด้านสุขอนามัย เรามีโซลูชั่น มีนวัตกรรม มีเทคโนโลยี มีผลิตภัณฑ์สุขอนามัยสำหรับกลุ่ม Food Service โดยเฉพาะ ถือเป็นเรื่องดีถ้าเราสามารถนำความเชี่ยวชาญของเราไป ช่วยให้ผู้ประกอบการจัดการเรื่องความสะอาดได้อย่างสะดวก ปลอดภัยและมีมาตรฐานระดับโลก แต่แค่ผลิตภัณฑ์อย่างเดียวไม่พอเรามองความสำคัญขององค์ความรู้ด้าน Food Hygiene และ Food Safety ด้วย ด้งนั้นโครงการ Hygiene Excellence จึงเป็นรูปแบบของการอบรมให้ความรู้ใน 2 ด้านนี้โดยเฉพาะกับผู้ประกอบการร้านอาหาร ซึ่งเราได้รับการสนับสนุนจากโรงเรียนการอาหารไทย เอ็ม เอส ซี สถาบันสอนทำอาหารที่ร่วมผลักดันครัวไทยสู่ครัวโลก ส่งผู้ทรงคุณวุฒิด้าน Food Hygiene และ Food Safety ให้เกียรติมาเป็นผู้อบรมให้กับโครงการ”

“ซึ่งในการออกแบบหลักสูตรอบรมเราได้ให้ความสำคัญในจุด เช่น เริ่มตั้งแต่พนักงานมาถึงร้านจะต้องจัดการความสะอาดกับตัวเองอย่างไรบ้าง แต่ละขั้นตอนต้องทำอะไรทุกขั้นตอนต้องถูกหลัก Food Hygiene และ Food Safety โดยทุกร้านที่ผ่านการอบรมจะมีมาตรฐานความสะอาดถูกต้องตามหลัก Food Hygiene และ Food Safety โดยจะมีการติดสติ๊กเกอร์ Hygiene Excellence บนกล่องอาหารในทุก ๆ ออเดอร์ เพื่อการันตีความสะอาดถูกสุขอนามัยของครัวและเป็นการสร้างความมั่นใจในเรื่องของรสชาติและความสะอาดปลอดภัยระดับมืออาชีพ เรานำร่องโครงการกับกลุ่มร้านอาหาร Grab Kitchen สาขาตลาดสามย่านกับ 7 ร้านอาหารชื่อดังก่อน ได้แก่ อองตองข้าวซอย เอลวิสสุกี้ อร่อยดี Brown Café เก้ากุ้งอบปูอบ-สุกี้ นายฮี้ต้มเลือดหมู Inari และจะขยายไปที่สาขาอื่น ๆ ของ Grab Kitchen ภายในปี 2564 ซึ่งในอนาคตเราจะมีการนำความรู้จากโครงการนี้เผยแพร่กระจายออกไปเพื่อให้ร้านอาหารทั่วไปได้นำไปใช้ด้วย” คุณศสิพงศ์ กล่าว

ซึ่งเกณฑ์ที่ใช้ในการอบรมและประเมินครัว Grab Kitchen คือเกณฑ์การประเมินมาตรฐานคุณภาพและบริการ QSC (Quality Service and Cleanliness) ที่ประยุกต์ร่วมกับโปรแกรม PACCE ของ Kimberly-Clark Professional ซึ่งจะทำให้เกิดผลลัพธ์ 5 ประการ ดังนี้

  1. สุขอนามัยส่วนบุคคล (Personal Hygiene)
  2. ความพร้อมในการตรวจสอบ (Audit Readiness)
  3. ประสิทธิภาพการทำความสะอาด (Cleaning Efficiency)
  4. การป้องกันการปนเปื้อนข้าม (Cross-Contamination Prevention)
  5. ความปลอดภัยจากการทำงาน (Exceptional Safety)

โดยโปรแกรมนี้จะช่วยตรวจตรา 7 ส่วนที่เกิดขึ้นในธุรกิจบริการอาหาร ได้แก่ บริเวณแต่งกาย บริเวณเก็บวัตถุดิบ บริเวณจัดเตรียมและปรุงอาหาร บริเวณ Cashier & Counter บริเวณรับประทานอาหาร บริเวณห้องน้ำ และบริเวณซักล้าง เป็นหนึ่งโครงการที่เป็นประโยชน์อย่างมากต่อทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภค

Kimberly-Clark ชื่อนี้มั่นใจได้ระดับโลกเรื่องผลิตภัณฑ์ด้านสุขอนามัย

 กว่า 140 ปีที่ Kimberly-Clark เป็นหนึ่งในผู้นำกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านสุขอนามัยระดับโลก เอ่ยชื่อกระดาษทิชชู่แบรนด์ Scott และคลีเน็กซ์ คงไม่มีใครไม่รู้จักทั้ง 2 แบรนด์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ในเครือ Kimberly-Clark โดยผลิตภัณฑ์ในเครือ Kimberly-Clark จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มสำหรับผู้บริโภคทั่วไป และกลุ่มองค์กร โดยกลุ่มธุรกิจ Food Service อย่างร้านอาหาร Kimberly-Clark มีสินค้าที่พัฒนาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานโดยเฉพาะ เช่น กลุ่มสินค้า WYPALL อย่างผ้าสำหรับทำความสะอาดภาชนะ และพื้นผิวภายในครัว ที่มีคุณสมบัติพิเศษดูดซัพของเหลว และระบายของเหลวออกจากตัวผ้าได้ดี ทำให้ผ้าซักทำความสะอาดแห้งได้เร็ว ไม่หมักหมมทำให้เกิดเชื้อโรคเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญของ Food Hygiene และ Food Safety

หรือจะเป็นกระดาษทำความสะอาดสำหรับใช้งานในครัวโดยเฉพาะ Kimberly-Clark ก็มี ไม่ต้องพูดถึงกระดาษทิชชู่บนโต๊ะอาหารเพราะ Kimberly-Clark เป็นที่ยอมรับเรื่องคุณภาพดีอยู่แล้ว

 พันธกิจ Kimberly-Clark ลดการใช้เพื่อโลก เพิ่มความคุ้มค่าเพื่อลูกค้า

 ด้วยเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ด้านสุขอนามัยระดับโลกมายาวนานกว่า 140 ทำให้ Kimberly-Clark ไม่เพียงแต่มุ่งพัฒนาสินค้าเพื่อยกระดับมาตรฐานด้านสุขอนามัยทั้งกับผู้ลูกค้าบริโภคทั่วไปและลูกค้ากลุ่มองค์กรเท่านั้น แต่ยังให้คำนึกถึงด้านสิ่งแวดล้อมของโลกด้วยหนึ่งในพันธกิจของ Kimberly-Clark การเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นการลดผลกระทบที่อาจเกิดกับสิ่งแวดล้อม เป็นทางเลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้กับลูกค้า ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการใช้ผลิตภัณฑ์ และเพิ่มความต้องการในผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูง

อาจจะดูขัดกันระหว่างลดปริมาณการใช้ผลิตภัณฑ์ แต่ก็ต้องการเพิ่มความต้องการในผลิตภัณฑ์ด้วย ซึ่งประเด็นหลักของพันธกิจนี้คือการส่งต่อผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ไม่สิ้นเปลืองการใช้งาน สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ และรีไซเคิลได้ นั่นเอง

บทความแนะนำ

Social Media เพื่อนแท้ร้านอาหาร

260,000แฟนคลับชอบ

บทความล่าสุด