จุดเริ่มต้นความสำเร็จของการทำธุรกิจร้านอาหาร หลายคนอาจบอกว่าคือ “รสชาติ” แต่ในหลักของธุรกิจร้านอาหาร “รสชาติ” คือเรื่องพื้นฐานสำคัญที่ทุกร้านจำเป็นต้องมีอยู่แล้ว จุดเริ่มต้นที่สำคัญต่อความสำเร็จของการทำธุรกิจร้านอาหาร คือ “ทำเล” ที่สร้างโอกาสให้ลูกค้าเข้ามา “พิสูจน์” ความอร่อยได้ต่างหาก
เพราะหากร้านอาหารของเราตั้งอยู่บนทำเลที่ไม่เอื้อต่อการให้ลูกค้าเข้าร้าน ก็จะไม่มีใครรู้ว่าร้านเราอร่อยแค่ไหน ดีแค่ไหน ก็จะทำให้ไม่เกิดการบอกต่อ ไม่เกิดการใช้ซ้ำ จนกลายเป็นความสำเร็จ ดังนั้นแล้ว ในการคิดจะทำธุรกิจร้านอาหาร จึงต้องให้ความสำคัญกับเรื่องของทำเล ซึ่ง 8 ข้อจากนี้ไป คือแนวคิดด้านทำเลที่จะทำให้ไม่ว่าจะเปิดร้านอาหารประเภทไหน ก็มีโอกาสประสบความสำเร็จได้ง่ายมากขึ้น
1. โดดเด่นบนเส้นทางสัญจร
ในการเลือกทำเลที่ตั้งร้านอาหาร เราจะต้องเลือกพื้นที่ที่อยู่รายล้อมด้วยแหล่งชุมชน ที่สามารถทำให้ผู้คนสัญจรไปมาเห็นได้อย่างชัดเจนสะดุดตา เพราะหากร้านเราไปตั้งอยู่ในที่ที่ไม่มีใครเห็น นั่นก็เท่ากับว่า โอกาสที่คนจะเข้าร้านเราก็จะมีน้อยลง อย่าหวังพึ่งเพียงแค่ว่า “การตลาด” จะสร้างโอกาสให้เราได้ เพราะสิ่งที่ทำให้ลูกค้าเข้าร้านเราได้ง่ายที่สุด คือการเลือกทำเลที่ดี เป็นการลงทุนรอบแรก ที่หากเราเลือกได้ดี การใช้งบการตลาดก็จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. รถสาธารณะต้องเข้าถึงได้ยิ่งดี
ยิ่งร้านเรามีวิธีการเดินทางมาถึงที่ง่ายและหลากหลายมากเท่าไร โอกาสที่ร้านอาหารจะประสบความสำเร็จก็มีมากเท่านั้น เพราะ “การเดินทาง” ที่สะดวกสบาย จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจง่ายที่จะมาใช้บริการ ลองคิดดูว่าหากจะมาทานอาหารร้านหนึ่งได้ต้องนั่งแท็กซี่อย่างเดียว ลูกค้าหลายๆ คนก็อาจจะส่ายหน้าแล้ว เพราะทำให้ต้นทุนอาหารมื้อนั้นของเขาสูงขึ้นจากค่าเดินทาง และยิ่งถ้าเดินทางลำบากแล้ว อุตส่าห์มาทานแล้วยังไม่อร่อย บริการไม่ดีอีกด้วยแล้ว แน่นอนว่าโอกาสประสบความสำเร็จก็ยิ่งริบหรี่ลงไปเรื่อยๆ
3. มีพื้นที่จอดรถสำหรับลูกค้า
แม้จะเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ง่ายเท่าไร เพราะต้องใช้พื้นที่มาก และอาจทำให้ต้นทุนค่าเช่าพื้นที่สำหรับเปิดร้านอาหารแพงขึ้น แต่เราก็จำเป็นต้องคิดถึงเรื่อง “พื้นที่จอดรถ” เอาไว้สำหรับลูกค้าเสมอ เพราะปัจจุบันแม้ระบบขนส่งสาธารณะจะดีแค่ไหน ผู้คนก็ยังสะดวกสบายกับการขับรถส่วนตัวอยู่ดี อีกทั้งการมาทานอาหารเป็นครอบครัว เป็นกลุ่มเพื่อนฝูง เป็นหมู่คณะ ก็เป็นวัฒนธรรมหลักของคนไทย
เพราะสังคมบ้านเราไม่นิยมทานอาหารคนเดียว ดังนั้น แนวโน้มของการใช้รถยนต์เดินทางมารับประทานอาหารจึงมีมาก ซึ่งหากร้านเราไม่ลองรับตรงจุดนี้ ก็จะทำให้ลูกค้าไม่สะดวก และเลือกที่จะไปรับประทานอาหารที่ร้านที่มีบริการที่จอดรถให้มากกว่า
4. ต้องเป็นที่ที่กลุ่มเป้าหมายร้านอาศัยอยู่
คนแต่ละพื้นที่ก็มีพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่แตกต่างกันไป มีกำลังซื้อที่ต่างกันไป ดังนั้น การเลือกทำเลที่ตั้งร้านอาหาร จึงต้องคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายของร้านเราด้วย ถ้าเราเปิดร้านบุฟเฟต์ ก็ควรเลือกทำเลที่มีกลุ่มลูกค้าที่ชอบทานบุฟเฟต์หรือมีแนวโน้มที่จะทานบุฟเฟต์อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น หรือหากพื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่ของพนักงานออฟฟิศธรรมดา ถ้าเราไปเปิดร้านอาหารหรูราคาแพง แน่นอนว่าก็จะไม่ตอบโจทย์ ต่อให้ทำร้านดี อาหารอร่อยแค่ไหนก็ตาม เพราะลูกค้าในพื้นที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย
นั่นเองที่ทำให้ในการเลือกทำเลเปิดร้าน เราจำเป็นต้องรู้เสียก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายเราคือใคร และพื้นที่นั้นเป็นพื้นที่ที่กลุ่มเป้าหมายเราอาศัยอยู่หรือเปล่า มีจำนวนมากเพียงพอต่อความสำเร็จที่เราต้องการหรือเปล่า
5. ในพื้นที่มีคู่แข่งหรือไม่
แน่นอนว่าในแต่ละพื้นที่ย่อมต้องมีร้านอาหารมากกว่า 1 ร้านเสมอ ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจเลือกทำเลในการเปิดร้าน ก็จำต้องสำรวจให้ดีเสียก่อนว่า มีร้านคู่แข่งอยู่ในพื้นที่มากน้อยแค่ไหน เช่นหากเราจะเปิดร้านบุฟเฟต์ แล้วในพื้นที่นั้นมีร้านบุฟเฟต์อยู่แล้วเป็นสิบๆ ร้าน บางทีแม้จะเป็นทำเลที่ดีที่พลุกพล่านมีผู้คนอาศัยอยู่มาก ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะประสบความสำเร็จได้ง่าย เพราะเราต้องไปแข่งขันกับร้านคู่แข่งมากมายเพื่อแย่งชิงลูกค้า สู้ไปเปิดในพื้นที่ที่แม้จะดูแล้วอาจมีผู้คนน้อยกว่า แต่ไม่มีร้านอาหารบุฟเฟต์ตั้งอยู่เลยดีกว่า ให้เราเป็นร้านเดียวที่เป็นตัวเอง ก็ยังมีโอกาสประสบความสำเร็จได้ง่ายมากกว่า
6. มองอนาคตของทำเลด้วย
พื้นที่ที่วันนี้อาจไม่ได้โดดเด่น อาจกลายเป็นพื้นที่ที่โดดเด่นในวันหน้าก็ได้ การมองหาทำเลไม่ควรมองเพียงแค่ปัจจุบัน แต่ควรมองถึงอนาคตการเติบโตของทำเลด้วย เช่น แม้วันนี้คนจะไม่พลุกพล่านมาก แต่ในอีกไม่ช้ารถไฟฟ้าจะมาถึง จะมีห้างมาเปิด จะมีคอนโดมาเปิด จะได้รับการพัฒนาพื้นที่ใกล้เคียงเป็นตลาดนัด ฯลฯ
สิ่งเหล่านี้ก็เป็นตัวชี้วัดถึงอนาคตของทำเลที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน เพียงแต่เราต้องชั่งน้ำหนักให้ดีว่า เราจะอยู่รอดได้ในวันนี้ จนเติบโตได้แบบก้าวกระโดดในอนาคตเมื่อพื้นที่ถูกพัฒนาได้หรือเปล่าด้วย ซึ่งหากวิเคราะห์ดี วางแผนดีแล้วล่ะก็ การเลือกทำเลจะไม่เพียงทำให้เราแค่มีกำไรเท่านั้น แต่จะทำให้เราโตได้แบบรวดเร็ว ก้าวไกล ก้าวกระโดด และมั่นคงยั่งยืนด้วย
7. ทำเลบนโลกออนไลน์
พื้นที่หน้าร้านจริงๆ เป็นสิ่งสำคัญ แต่ในยุคปัจจุบันนั้น ทำเลหน้าร้านจะสามารถอัพเกรดระดับให้กลายเป็นทำเลที่ดีขึ้นกว่าเดิมได้อีก ด้วยการทำหน้าร้านบนโลกออนไลน์ ให้ลูกค้าได้มีโอกาสเข้าร้านเราได้ก่อน พิจารณาตัดสินใจได้ก่อนว่าควรจะมาดีหรือเปล่า ซึ่งความดีงามของหน้าร้านออนไลน์นั้น คือลงทุนน้อย และสามารถทำให้ผู้คนเห็นได้มากขึ้น กว้างขวางและขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น ยกตัวอย่างง่ายคือ แม้หน้าร้านเราจะอยู่กรุงเทพฯ แต่การมีหน้าร้านออนไลน์จะช่วยทำให้คนที่อยู่ทั่วประเทศทุกจังหวะรู้จักร้านเราได้ และมีโอกาสกลายมาเป็นลูกค้าเราได้มากขึ้น
ดังนั้น อย่าละเลยการสร้างทำเลหน้าร้านบนโลกออนไลน์ เพราะยุคปัจจุบันโลกออนไลน์มีความหมายกับการประสบความสำเร็จของธุรกิจร้านอาหารอย่างมาก
เมื่อตัดสินใจเลือกทำเลแล้ว นั่นคือการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของการทำร้านอาหารเลยก็ว่าได้ ไหนจะค่าสร้างร้าน ค่าเช่าพื้นที่ ค่าตกแต่ง ฯลฯ ทุกอย่างคือเงินก้อนใหญ่ที่หากลงไปแล้วผิดพลาด โอกาสที่จะก้าวต่อไปก็มีน้อยลงและยากมากขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้น การเลือกทำเลจึงเป็นสิ่งที่ควรทำการบ้าน วิเคราะห์ให้หนัก ไม่ใช้อารมณ์ส่วนตัวตัดสิน แต่ต้องผ่านการสำรวจอย่างเต็มที่ เป็นขั้นเป็นตอน มีการลงพื้นที่จริงแล้วเท่านั้น การเลือกทำเลในการทำร้านอาหาร ก็เหมือนกับการลงหลักปักเสาเข็ม หากปักไม่ดีแล้ว ความมั่นคงของบ้านก็จะไม่ดี เช่นกันกับร้านอาหารที่หากเลือกทำเลผิด ธุรกิจก็จะไม่ดีและไม่มั่นคง โอกาสประสบความสำเร็จได้อย่างที่เราตั้งใจก็เป็นไปได้ยาก
ถึงแม้ใครจะบอกว่า ทำเลไม่ดีก็สามารถทำให้ดังได้ ด้วยการตลาด แต่นั่นก็เท่ากับต้นทุนที่ต้องถูกเพิ่มเข้ามาในธุรกิจเช่นกัน ซึ่งถ้าร้านเราไม่มีจุดเด่นให้คนดั่งด้นมาหาก็ยากที่จะปังดังใจคิด
