ยอดขายตก ยอดขายนิ่ง กำไรไม่เพิ่ม เพื่อนๆ ลองนำ 5 วิธีต่อไปนี้ไปปรับใช้กัน เป็น 5 ข้อสำคัญแต่ยังมีเพื่อนๆ ผู้ประกอบร้านอาหารหลายคนมองข้ามไปมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
ข้อ 1 ออกเมนูใหม่สิ่งสำคัญที่ห้ามมองผ่าน
ในทุกๆ ปีผมจะวางแผนการทำเมนูใหม่ในปีถัดไป โดยเมนูใหม่ที่ทำนั้นจะแบ่งออกเป็นปีละ 4-6 ครั้ง เมนูใหม่จะมีระยะเวลาอยู่ประมาณ 2-3 เดือน มีเมนูใหม่ต่อครั้งที่ออกประมาณ 2-3 เมนูด้วยกัน ซึ่งการออกเมนูใหม่สม่ำเสมอนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อ
เพื่อเพิ่มการกลับมาของลูกค้าเก่า ความเบื่อหน่ายในการทานเมนูเดิมๆ มีแน่นอนกับทุกๆ คนครับ ถ้าอยากเพิ่มความถี่การใช้บริการของลูกค้าเก่าก็ควรที่จะทำเมนูใหม่อยู่สม่ำเสมอ
เพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ เมนูเดิมของร้านอาจจะไม่สามารถดึงดูดลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ดังนั้นการทำเมนูใหม่เพิ่มเติมเป็นการช่วยในการดึงลูกค้าใหม่เข้าร้าน
เพื่อเพิ่มค่าเฉลี่ยต่อหัวที่ลูกค้ามาทาน เพราะทุกครั้งที่ออกเมนูใหม่ผมจะวางราคาไว้ให้สูงกว่าเมนูเดิมที่มีในร้าน
เป็นการทดลองเมนูกับลูกค้า เพื่อที่จะเตรียมตัวปรับโฉมเมนูเล่มเก่า ซึ่งหากเมนูใหม่ตัวใดที่มีการตอบรับที่ดี พอครบ 2 ปีผมก็จะนำมาใส่ลงเป็นเมนูประจำของร้าน
ข้อที่ 2 อย่ามองข้ามโปรโมชั่นดั่งเดิมๆ
“ลด แลก แจก แถม” สามารถทำได้ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ต้องทำอย่างมีวัตถุประสงค์ เป้าหมาย และต้องสามารถวัดผลได้ ตัวอย่างเช่น
ร้านบุฟเฟ่ต์ทำโปรโมชั่น มา 4 จ่าย 3 ช่วงเวลา 14.00 – 17.00 น. (จันทร์-ศุกร์) ซึ่งในการทำโปรโมชั่นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ
ทำเพื่อเพิ่มยอดขายในช่วง 14.00 – 17.00 น. เนื่องจากในช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ไม่มีลูกค้า จึงสามารถทำโปรโมชั่นส่วนลดในการดึงลูกค้าเข้าร้านได้
เพื่อนำกำไรขั้นต้นหลังหักต้นทุนอาหารมาจ่ายค่าใช้จ่าย ค่าแรง ค่าเช่าที่ และค่าสาธารณูปโภค ในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นเอง
ซึ่งเป้าหมายในการทำโปรโมชั่นนี้คือเพิ่มยอดขายจากเดิม 2 เท่า
ส่วนการวัดผลนั้น ผมจะมีการนำข้อมูลจำนวนหัวลูกค้าและยอดขายวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งต่เปิดร้านจนถึงปิดร้าน มาบันทึกลงในตาราง จากนั้นเมื่อเริ่มโปรโมชั่นก็จะนำข้อมูลจำนวนหัวลูกค้าและยอดขายมาบันทึกลงในตารางเพื่อเปรียบเทียบว่า
➡ ยอดขายในช่วง 14.00 – 17.00 น. เพิ่มขึ้นและเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งหรือไม่
➡ ยอดขายรวมในแต่ละวันของวันจันทร์-วันศุกร์ ลดลงหรือไม่ ซึ่งข้อนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่ใช่ว่ามองแต่ยอดขายในช่วงทำโปรโมชั่นว่าถึงเป้าหมายหรือไม่ แต่เราจะต้องมองภาพรวมด้วยว่ายอดขายรวมนั้นโตขึ้นหรือไม่จากการทำโปรโมชั่น
ข้อที่ 3 อย่าลืมติดตามผลของโปรฯ เป็นระยะๆ
หนึ่งในขั้นตอนการทำการตลาดที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการออกโปรโมชั่น , ทำกิจกรรมทางการตลาด , co-promotion หรือการยิงโฆษณาทางFB คือการติดตามผลของโปรฯเป็นระยะๆ ว่าสิ่งที่ออกไปนั้นได้เข้าเป้าตามที่ต้องการหรือไม่ หากเห็นว่าไม่เป็นไปตามที่ตั้งไว้ต้องรีบทำการแก้ไขและปรับปรุง อย่างเช่น
ผมเคย Co-Promotion กับทางโรงภาพยนตร์แห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้า แต่แล้วผลตอบรับในช่วง 7 วันแรกไม่ค่อยโอเคตามที่ตั้งไว้ จึงได้ไปหาสาเหตุและพบว่าสื่อโฆษณาที่ฝากวางไว้ตามจุดต่างๆ ถูกเก็บออกนั้นเอง จึงทำให้ไม่มีสื่อช่วยโฆษณาให้ลูกค้ารับทราบถึง Co-Promotion ดังกล่าวที่ทำไว้ จึงอยากฝากเพื่อนๆ ไว้ว่า การวางแผนการตลาดที่ดีเพียงอย่างเดียว อาจไม่สามารถทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาสำเร็จตามเป้าที่ตั้งไว้ สิ่งที่สำคัญคือการติดตามผลในระหว่างทำการตลาดพร้อมกับการปรับปรุงแก้ไขหากไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
ข้อที่ 4 ทำสรุปผลงานหลังจบโปรฯ
หลังจากจบโปรโมชั่นต่างๆ แล้ว ควรจะมีการทำสรุปโปรโมชั่นที่ทำไปว่าสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ ถ้าไม่สำเร็จก็ต้องระบุสาเหตุให้ได้ว่าเพราะสาเหตุใดที่ทำให้โปรโมชั่นที่ออกไปไม่สำเร็จตามเป้าที่ตั้งไว้ เพื่อที่ครั้งหน้าหากมีการทำโปรโมชั่นในลักษณะที่เคยทำมา จะได้ระวังและแก้ไขปัญหาได้แต่เนิ่นๆ ซึ่งการทำสรุปนั้นยังรวมถึงการหาสาเหตุของการทำโปรโมชั่นสำเร็จตามเป้าหมายด้วย
ข้อที่ 5 หน้าแรกของเล่มเมนูอย่าลืมทำ “เมนูแนะนำ”
การทำสื่อรูปเล่มเมนูอาหาร หน้าแรกของรูปเล่มควรจะเป็น “เมนูแนะนำ” ของร้าน เพื่อนๆ เคยเป็นหรือไม่ไปร้านอาหารไทยบางร้านที่มีเมนูอาหารกว่า 100 เมนู แต่ไม่รู้จะสั่งอะไรดีเพราะมันเยอะเกิน นั้นแหละครับคือปัญหาที่เราต้องแก้โดยการใส่ “เมนูแนะนำ”ลงไปเป็นแผ่นแรกของเมนูในเล่ม เพื่อที่จะให้ลูกค้าทราบว่ามาทานอาหารร้านนี้แล้วควรสั่งเมนูอะไรดีที่ต้องห้ามพลาด แต่หากเพื่อนๆ คนใดไม่ได้ทำเมนูเป็นรูปเล่ม ทำเพียงเป็นลักษณะ A4 หน้า-หลัง ก็ให้เน้นเมนูที่อยากแนะนำด้วย “รูปภาพ” กับข้อความกำกับบนชื่อเมนูเช่น “เมนูแนะนำ” เป็นต้น
หากเพื่อนๆ คนใดมีปัญหาหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำการตลาด สามารถติดต่อสอบถามมาทาง Inbox แฟนเพจเพื่อนแท้ร้านอาหารได้เลยครับทางเรายินดีที่จะให้คำแนะนำฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
ช่วงนี้ตรง ๆ ขายคอร์สครับ เพราะมันสำคัญและจำเป็นต่อร้านอาหารของเพื่อน ๆ โดยตรง
เรื่องการคิดต้นทุนเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างมากในการทำธุรกิจร้านอาหาร ร้านอาหาร 80%ที่ขายไม่เหลือกำไรก็มาจากสาเหตุคิดต้นทุนผิดพลาด เอาแค่เรื่องตั้งราคาอาหารผิดเรื่องเดียวก็ทำให้หลาย ๆ ร้านขายขาดทุนเข้าเนื้อ หลายคนตั้งราคาอาหารจากการกะเอาตามความรู้สึก คิดเอาจากวัตถุดิบที่ซื้อมา โดยลืมไปว่า วัตถุดิบนั้นใช้ไม่ได้ทั้งหมดแต่เอาต้นทุนราคาที่ซื้อมาเป็นตัวตั้งในการคิดราคาอาหาร ผลคือ ขายยังงัยก็ขาดทุน เพราะต้นทุนมันผิดตั้งแต่แรก ในหลักสูตร Cost Control ตลอด 15 รุ่นที่ผ่านมา เราให้ความสำคัญอย่างมากกับเรื่องจัดการต้นทุนให้ถูกต้องและเหมาะสมของแต่ละร้าน ดังนั้น หากเพื่อน ๆ กำลังจะเริ่มต้นทำร้านก็ดี หรือทำอยู่แล้วแต่มีปัญหาเรื่องต้นทุนสูง ขายได้กำไรน้อย ตอนนี้กำลังเปิดรับสมัครหลักสูตร Cost Control รุ่น 16 ซึ่งหลักสูตรนี้เต็มเร็ว และมีผู้ประกอบการกว่า 1,000 คนจากในและนอกประเทศให้ความไว้วางใจเข้าอบรม ทุกท่านที่นำความรู้และเครื่องมือที่เราแบ่งปันให้ไปใช้ เห็นผลลัพธ์ทางบวกทันที เราจึงอยากขอให้เพื่อน ๆ ที่กำลังจะเริ่มต้นทำร้าน หรือทำอยู่แล้วแต่มีปัญหาเรื่องต้นทุนสูง ขายได้กำไรน้อย มาเข้าอบรมสักครั้ง เพื่อจะได้กำจัดปัญหาต้นทุนให้หมดไป และเริ่มต้นทำกำไรให้กับร้านเสียที
“ปัญหาต้นทุนยิ่งปล่อยไว้ ยิ่งบานปลาย”
หลักสูตร Cost Control รุ่น 16 เรียนวันที่ 16-17 ตุลาคม 2562
เรียนก่อน รู้ก่อน นำไปใช้ก่อน โอกาสสำเร็จมีก่อน คอร์สนี้เต็มค่อนข้างเร็ว!!
รายละเอียดหลักสูตรและวิธีการสมัครคลิกด้านล่าง
(หลักสูตรนี้เต็มเร็ว!)