ทุกครั้งเมื่อเรานำเสนอเรื่องราวของผู้ประกอบการที่อยู่บนเส้นทางความสำเร็จ เป้าหมายของการนำเสนอคือต้องการให้เพื่อนๆ เห็นเส้นทางตั้งต้นจนมาถึงจุดที่เรียกได้ว่ากิจการผ่านช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อมาแล้ว เพื่อเพื่อนๆ จะได้ศึกษาแนวทางคิด แนวทางการแก้ปัญหาต่างๆ เพราะกว่ากิจการใดกิจการหนึ่งจะผ่านช่วงเริ่มต้นจนยืนได้ไม่มีอะไรง่าย ต้องเจออุปสรรคมามาก ซึ่งเป็นประสบการณ์ส่งต่อให้เพื่อนๆ ได้เรียนรู้อย่างดี เช่นเดียวกับเรื่องราวของผู้ประกอบการท่านนี้ ที่กว่าจะประคองให้กิจการผ่านพ้นช่วงเวลาสำคัญมาได้ต้องใช้ทั้งความอดทน และการวางแผนอย่างรอบคอบที่สุด ติดตามเรื่องราวของ คุณภาวิณี ศิริภักดิ์ หรือคุณผึ้ง เจ้าของแบรนด์แฟรนไชส์นมเหนียวปังปิ้ง มีประสบการณ์ดีๆ ให้เพื่อนๆ ได้เรียนรู้
หาช่องว่างของตลาดและเริ่มจากสิ่งที่ถนัด
คุณผึ้งเล่าถึงที่มาของการสร้างแบรนด์แฟรนไชส์นมเหนียวปังปิ้งให้ฟังว่า เกิดจากตัวเองทำธุรกิจแฟรนไชส์เครื่องดื่มอยู่ก่อนแล้ว และมองเห็นโอกาสช่องว่างของตลาดที่เครื่องดื่มส่วนใหญ่จะเป็นชา กาแฟ ซึ่งกลุ่มลูกค้าจะเป็นวัยทำงานขึ้นไป แต่เครื่องดื่มตลาดนักเรียน นักศึกษายังไม่ค่อยมีสินค้าเครื่องดื่มสำหรับกลุ่มนี้มากนัก จึงเริ่มคิดผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนักเรียน นักศึกษาเป็นหลัก ขณะเดียวกันคนกลุ่มอื่นๆ ก็สามารถดื่มได้เป็นลูกค้าได้เช่นกัน
ด้วยที่มีพื้นฐานด้านการพัฒนาสูตรเครื่องดื่มอยู่แล้วทำให้คุณผึ้งใช้เวลาคิดและพัฒนาสูตรเครื่องดื่มตัวใหม่ไม่นานนัก โดยมีโจทย์ว่า ต้องแตกต่าง อร่อย และโชว์ได้ จึงออกมาเป็นนมเหนียว ด้วยเหตุผลว่า นมมี Story ที่ทุกคนรับรู้และเข้าใจกันดีอยู่แล้วช่วยให้การอธิบายสินค้าทำได้ง่ายขึ้น แต่แค่นมธรรมดาก็จะไม่แตกต่างจึงทำให้นมมีความเหนียวยืด และเพิ่มสีสัน รสชาติหลากหลายเข้าไปเกิดเป็นความต่างจากนมที่คุ้นเคยทั่วไป
จุดเด่นของนมเหนียว จะอยู่ที่ความเหนียวของตัวนมซึ่งใช้นมสดเป็นส่วนผสมหลัก และความหอม หวานมันเหมือนนมฮอกไกโด โดยตัวนมเหนียวสามารถนำมาใช้เป็นทั้งท็อปปิ้งและส่วนผสมหลักในเครื่องดื่มรสชาติต่างๆ ด้วยคุณลักษณะเหนียวยืด หลากสี หลายรสทำให้เกิดเป็นความต่างจากนมทั่วไป ตรงตามโจทย์ที่คุณผึ้งคิดไว้
อุปสรรคข้อแรก…เงินทุนจำกัด เป้าหมายจึงต้องชัดว่าเราทำอะไร
เมื่อพัฒนาสินค้าได้มาแล้ว อุปสรรคข้อแรกที่คุณผึ้งต้องเจอก็คือ ข้อจำกัดด้านเงินทุน ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ของ SME ทำให้เธอต้องรอบคอบในทุกๆ ก้าว “เราไม่ได้มีเงินทุนมากนัก เงินส่วนใหญ่ใช้ไปกับการพัฒโปรดักส์ และเรามั่นใจในตัวโปรดักส์ว่าสามารถทำตลาดได้ แต่เราก็รู้ว่าแค่โปรดักส์อย่างเดียวธุรกิจสำเร็จไม่ได้ มันต้องมีเรื่องช่องทางจำหน่าย เรื่องการตลาด และอื่นๆ ระหว่างทางของการทำธุรกิจอีก สิ่งที่ต้องรอบคอบสุดๆ ก็คือ การจัดสรรงบประมาณ วิธีที่ผึ้งใช้คือ แผนธุรกิจและเป้าหมายต้องชัดก่อน ใครคือลูกค้าของเรา นมเหนียวกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักคือวัยรุ่น ลูกค้าเป้าหมายรองคือคนทั่วไป แต่นั้นไม่ใช่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักของธุรกิจเราเพราะเราตั้งใจพัฒนาโปรดักส์ให้เป็นแฟรนไชส์ ดังนั้นใครละที่จะสนใจทำธุรกิจตัวนี้เราต้องหาให้เจอเพื่อนำมาพัฒนารูปแบบแฟรนไชส์ที่ตอบโจทย์เขา”
“ดังนั้น ถ้าถามว่า เงินทุนเป็นอุปสรรคหรือไม่ ตอบว่าเป็น แต่ถ้าเรามีแผนธุรกิจชัดเจน มีเป้าหมายชัดเจนว่าจะขายให้ใคร มันจะช่วยให้เรารู้ว่าจะทำอะไรต่อไป เราสามารถจัดสรรเงินทุนจำกัดของเราให้เกิดประโยชน์ที่สุดได้”
ระวังสิ่งที่คิดกับสิ่งที่ตลาดต้องการมักตรงกันข้าม
แม้จะมีประสบการณ์ทำธุรกิจเครื่องดื่มมาก่อน แต่โอกาสผิดพลาดก็เกิดขึ้นได้เสมอเมื่อเริ่มทำอะไรที่ใหม่และแตกต่างจากที่เคยทำ ซึ่งหนึ่งในจุดผิดพลาดของ SME ส่วนใหญ่ก็คือ สิ่งที่คิดอาจไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้าต้องการ นมเหนียวของคุณผึ้งก็เช่นกัน
“คือตอนแรกผึ้งคิดว่า ถ้าเราทำนมเหนียวออกมาให้มีหลายรสชาติจะช่วยให้ลูกค้าสนใจอยากซื้อดื่มมากขึ้น ลูกค้าที่ซื้อแฟรนไชส์เราไปก็จะได้มียอดขายดีๆ ผึ้งเลยสั่งผลิตออกมาหลายสูตรมาก แต่พอเราเปิดตัวโปรดักส์ปรากฎว่าขายดีอยู่แค่ 3-4 รสชาติ ทำให้เราได้รู้ความต้องการจริงๆ ของลูกค้าว่า โปรดักส์แต่ละอย่างความต้องการของผู้บริโภคก็ไม่เหมือนกัน การลงสนามจริงจะทำให้เราได้เรียนรู้เพื่อนำมาปรับปรุงพัฒนา เพราะสิ่งที่คิดอาจไม่ใช่สิ่งที่ผู้บริโภคต้องการเสมอไป”
เลือกทำการตลาดแบบหวังผลได้เร็วและเหมาะกับธุรกิจตัวเอง
ต้องบอกว่าแฟรนไชส์ นมเหนียวปังปิ้งไม่ได้แจ้งเกิดจากการทำการตลาดออนไลน์เหมือนอย่างหลายๆ แบรนด์ที่ใช้การตลาดออนไลน์เป็นเวทีแจ้งเกิด แต่นมเหนียวปังปิ้งเกิดมาจากกระแสคนต่างจังหวัดเพราะคุณผึ้งเลือกวิธีทำการตลาดด้วยการออกบูธตามงานอาหารในภูมิภาคต่างๆ “ผึ้งเลือกทำการตลาดด้วยการออกงานอีเว้นท์มหกรรมอาหารตามภาคต่างๆ เพราะเราคิดแล้วว่า ด้วยเป็นแบรนด์ใหม่ถ้าจะทำการตลาดผ่านช่องทางอื่นเรามีงบประมาณจำกัด ถ้าจะทำการตลาดออนไลน์ผ่านแฟนเพจก็ต้องใช้งบไม่น้อยในการโปรโมทและลูกค้าก็อาจยังขาดความเชื่อมั่นในแบรนด์สินค้าเพราะเขาไม่เห็นของจริง ผึ้งจึงเลือกที่จะเอาร้านไปตั้งให้เขาเห็น เอาสินค้าไปให้เขาทดลองชิม ให้เขาเห็นว่านมเหนียวเป็นอย่างไร แม้จะใช้เงินในการออกบูธต่องานไม่น้อย แต่ก็ทำให้ลูกค้ารู้จักได้เดี๋ยวนั้นเลย”
“ผึ้งว่า วิธีทำการตลาดในทุกรูปแบบมันมีข้อดีแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับเราว่าจะเลือกใช้วิธีไหนก่อนหลังเพื่อตอบโจทย์เป้าหมายของเราให้ได้เร็วที่สุดและเหมาะกับธุรกิจของเราเอง สำหรับผึ้งช่วงเริ่มต้นเลือกออกงานอีเว้นท์เพราะสินค้าของเรามันต้องเห็นกับตา ต้องได้ชิมถึงจะรู้ว่าเป็นอย่างไร”
อุปสรรคข้อสอง…คู่แข่งก็อปปี้!
อีกหนึ่งอุปสรรคของ SME คือการถูกก็อปปี้รูปแบบสินค้า ซึ่งนมเหนียวปังปิ้งของคุณผึ้งก็หนีไม่พ้น “พอเราเริ่มเป็นที่รู้จัก เริ่มมีแฟรนไชส์กระจ่ายออกไปตามต่างจังหวัดมากขึ้น ก็เริ่มมีสินค้าแนวเดียวกับเราออกมาทำตลาด แม้ว่าเป็นไปตามธรรมชาติของธุรกิจ แต่บางครั้งการลงมาแข่งของเจ้าใหญ่ทุนหนาก็เป็นปัญหาของSMEอย่างเราได้ สิ่งที่เราจะสู้กับการแข่งขันก็คือ รักษามาตรฐานสูตรของเรา ใช้ข้อได้เปรียบของการเป็นแบรนด์เล็กๆ ที่คล่องตัวให้เป็นประโยชน์คือ เช่นการบริการเราพร้อมคอยช่วยเหลือให้คำปรึกษาลูกค้าแฟรนไชส์ตลอดเวลาไม่ทิ้งกัน ดูแลกันเหมือนพี่น้องโดยไม่ได้ยึดข้อความในสัญญาเป็นหลักอะไรที่ช่วยให้แฟรนไชส์ซีสำเร็จได้เราก็พร้อมเข้าไปช่วย”
มีเป้าหมาย วางแผน อดทน หัวใจความสำเร็จของการทำธุรกิจ
เมื่อถามถึงความยากในการสร้างธุรกิจขึ้นมาสักตัว และการจะทำให้ธุรกิจนั้นผ่านจุดเริ่มต้นไปให้ได้ คุณผึ้งมีมุมมองอย่างไร คำตอบที่ได้จากประสบการณ์ของเธอคือ “ทำธุรกิจยากนะ ถ้าเราไม่มีเป้าหมาย ไม่แผนที่ดีตั้งแต่แรกโอกาสสำเร็จยาก เพราะต่อให้เรามีแผนที่ดีก็ใช่ว่าเมื่อลงตลาดแล้วมันจะใช่เสมอไป มันต้องมีแผนหนึ่ง แผนสอง แผนสาม แต่สำคัญสุดคือ แผนธุรกิจมีความสำคัญมาก และเป็นตัวที่จะทำให้เราไปให้ถึงเป้า ถ้าจะให้สรุปจากประสบการณ์ตัวเอง ก็ต้องตอบว่า การทำธุรกิจสักตัวให้ผ่านจุดเริ่มต้นไปให้ได้ไม่ง่าย แต่ถ้าเรามีแผนแต่แรกก็ไม่ยากเกินไปที่จะทำได้ ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและแผนธุรกิจของเรา”
แฟรนไชส์นมเหนียวปังปิ้ง จุดเด่นคือ ลงทุนน้อย คืนทุนไว้ ไม่ทิ้งกัน
ด้วยโจทย์เป้าหมายที่ชัดแต่แรกว่า กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของแฟรนไชส์นมเหนียวคือใคร ทำให้การกำหนดรูปแบบธุรกิจมีความชัดเจนซึ่งมีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จโดยตรง รูปแบบธุรกิจของแฟรนไชส์นมเหนียวปังปิ้งจะเน้นไปที่กลุ่มลูกค้าผู้ต้องการเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองด้วยเงินทุนไม่มากก็สามารถซื้อแฟรนไชส์ได้ หรือใครที่มีร้านชา กาแฟ ร้านขนม เบเกอรี่อยู่ก็นำนมเหนียวปังปิ้งไปเป็นตัวช่วยเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง
รูปแบบการลงทุนของแฟรนไชส์นมเหนียวปังปิ้งมี 3 รูปแบบการลงทุน ดังนี้
1 ชุดเริ่มต้น เริ่มต้น 4,990 บาท
สิ่งที่ได้รับ
➡นมเหนียว 5 รสชาติ
➡สูตรการชง
➡ขนมปัง
?ชงได้ 200 แก้ว
:
2 ชุดกลาง ราคา 15,000 บาท
➡นมเหนียว 5 รสชาติ
➡สูตรการชง
➡ขนมปัง
➡เมนูกาแฟ นม ชา
:
3 ชุดใหญ่ ราคา 39,900 บาท
➡นมเหนียว 5 รสชาติ
➡สูตรการชง
➡ขนมปัง
➡เมนูกาแฟ นม ชา
➡เครื่องปิ้งขนมปัง
➡เครื่องปั่นนมเหนียว
สำหรับระยะเวลาคืนทุนนั้น คุณผึ้งบอกว่า การลงทุนรูปแบบที่หนึ่งมีโอกาสคืนทุนภายใน 1 เดือน ส่วนอีก 2 รูปแบบไม่เกิน 6 เดือนก็มีโอกาสคืนทุน โดยคุณผึ้งและทีมงานจะคอยให้คำปรึกษาและช่วยแก้ไขปัญหาให้กับผู้ซื้อแฟรนไชส์อยู่ตลอด ซึ่งปัจจุบันแฟรนไชส์นมเหนียวปังปิ้งมีสาขามากกว่า 100 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งคุณผึ้งบอกว่าตัวเลขอาจดูเหมือนจะเยอะ แต่เมื่อเทียบกับตลาดเครื่องดื่มในบ้านเรายังมีโอกาสให้กับผู้สนใจเริ่มต้นธุรกิจนมเหนียวปังปิ้งอีกมาก
เป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการที่ประสบการณ์ของเธอเชื่อว่าจะเป็นแนวทางให้กับเพื่อนๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นหรือกำลังจะเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองได้นำไปปรับใช้ได้ เพราะการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงมีคุณค่าเสมอ
สนใจแฟรนไชส์นมเหนียวปังปิงสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่
โทร.0877997115, 0944944885
เฟซบุ๊กแฟนเพจ : นมเหนียวปังปิ้ง
