ยูบีเอ็ม บีอีเอส จับมือ ททท. พร้อม 25 องค์กรรัฐ เอกชน ไทย – ต่างประเทศ เร่งพัฒนาภาคท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร ล่าสุดจัดงาน Food & Hotel Thailand 2017 ระหว่างวันที่ 6-9 กันยายน 2560 คาดสร้างมูลค่าการค้าและการเจรจาธุรกิจในงานกว่า 4,500 ล้านบาท
ยูบีเอ็ม บีอีเอส จับมือ ททท. และ 25 องค์กรรัฐ เอกชนไทยและต่างประเทศภาคท่องเที่ยวจัดงาน Food & Hotel Thailand 2017 งานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมอาหารและบริการพรีเมี่ยมระดับนานาชาติ ช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร คาดผู้ประกอบการ นักธุรกิจ และนักลงทุนให้ความสนใจเข้าร่วมงานกว่า 30,000 คน สร้างมูลค่าการค้าและการเจรจาธุรกิจกว่า 4,500 ล้านบาท
นายจัสติน พาว ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูบีเอ็ม บีอีเอส จำกัด กล่าวถึงแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยว่า ยังสามารถเติบโตได้เป็นอย่างดีและเป็นอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้ให้กับประเทศถึง โดยในปี 2560 คาดว่าประเทศไทยจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวมกว่า 2.7 ล้านล้านบาท เติบโตประมาณ 10% จากปีที่ผ่านมา การเติบโตดังกล่าวส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร และ ธุรกิจบริการจำเป็นต้องมีการพัฒนาศักยภาพและประสิทธิภาพ เพื่อรองรับกับปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ด้วยเหตุนี้ ยูบีเอ็ม บีอีเอส จึงจัดงาน Food & Hotel Thailand 2017 งานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมอาหารและบริการพรีเมี่ยมระดับนานาชาติขึ้นเป็นครั้งที่ 25 ขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากการท่องเทียวแห่งประเทศไทย สมาคมโรงแรม สมาคมโรงแรมไทย สมาคมภัตตาคารไทย สมาคมเชฟประเทศไทย และ อีก 25 องค์กรภาครัฐและเอกชนไทยและต่างประเทศ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และ การเจรจาธุรกิจ
โดยการจัดงาน Food & Hotel Thailand 2017 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-9 กันยายน 2560 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ซึ่งมีการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่าการจัดงานครั้งที่ผ่านมาประมาณ 10% บนพื้นที่การจัดงานเพิ่มขึ้นเป็น 18,000 ตรม. โดยกลุ่มสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ กลุ่มอุปกรณ์เครื่องใช้ในโรงแรม กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม และ กลุ่มอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัว สำหรับผู้เข้าชมงานในปีนี้คาดว่าจะมีนักธุรกิจชาวไทยและต่างประเทศที่อยู่ในอุตสาหกรรมให้ความสนใจเข้าเยี่ยมชมงานกว่า 30,000 คน และ สร้างมูลค่าการค้าและการเจรจาธุรกิจกว่า 4,500 ล้านบาท
ตลอดระยะ 25 ปีที่ของการจัดงานฯ มีการเติบโตและขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากปัจจัยสนับสนุนหลายประการ อาทิ การนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีล่าสุดในแต่ละปีจากบริษัทชั้นนำของโลก การจัดแสดงสินค้าวัตถุดิบคุณภาพที่มีชื่อเสียงจากผู้จัดจำหน่ายของประเทศผู้ผลิตโดยตรง การเป็นศูนย์กลางการเจรจาการค้า
การลงทุนและการหาพันธมิตรที่สร้างมูลค่าทางธุรกิจอย่างแท้จริง ในการจัดงานฯ ปีนี้มีผู้สนใจเข้าร่วมจัดแสดง งาน 370 ราย จาก 30 ประเทศทั่วโลก และ 7 พาวิลเลี่ยนใหญ่จากประเทศเบลเยี่ยม จีน เยอรมัน ญี่ปุ่น แอฟริกาใต้ ไต้หวัน และ สหรัฐอเมริกา
นายจัสติน กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวความคิดในการจัดงานฯ ครั้งนี้ว่า จะนำเสนอทั้งในด้านของนวัตกรรมและเทคโนโลยี แนวทางการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับโลก ซึ่งสามารถช่วยในให้การดำเนินธุรกิจและการบริหารจัดการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โรงแรม และ ร้านอาหาร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งส่วนของการผลิต การบริหารจัดการ การดำเนินงาน ความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และ การเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ซึ่งไฮไลท์สำคัญของการจัดงานฯ ในปีนี้ประกอบด้วย พาวิลเลี่ยนใหม่จากประเทศเบลเยี่ยม เยอรมัน และ แอฟริกาใต้ การเปิดตัว 22 ผลิตภัณฑ์ใหม่ของโลก 12 ผลิตภัณฑ์ใหม่ของอาเซียน และ 38 ผลิตภัณฑ์ใหม่ของไทย พร้อมกิจกรรมการแข่งขันจัดโต๊ะอาหาร (5 Courses Western Table Set Up Competition) การประกวดไวน์และสัมมนาไวน์จากผู้เชี่ยวชาญ (International Wine Challenge Judges Panel and Thai Wine Master Class) เบียร์พาวิลเลี่ยนและการอบรมคราฟต์เบียร์ และ การแข่งขันวาดลวดลายศิลปะบนถ้วยกาแฟ (World Champion 2017 Latte Artist from Thailand) เพื่อหาตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันระดับโลก นอกจากนั้นยังมีกิจกรรม การประชุม และ สัมมนาจากสมาคม และการแข่งขันและองค์กรทั้งไทยและต่างประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ ฝึกฝนทักษะ และ รับทราบถึงแนวโนม้ทิศทางของอุตสาหกรรม อาทิ งานประชุมประจำปีสมาคมโรงแรมไทย ครั้งที่ 19, สัมมนาสมาคมภัตตาคารไทย, การแข่งขัน Thailand’s International Culinary Cup (TICC) 2017 ค้นหาสุดยอดเชฟไทยระดับโลก ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้นำมาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย