5 ข้อควรรู้เบื้องต้น สำหรับคนอยากเริ่มทำร้านอาหาร

ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย เทคโนโลยีอะไรจะผ่านเข้ามาให้เราได้เห็นโอกาสมากมาย แต่ผลสุดท้ายแล้ว “ธุรกิจร้านอาหาร” ก็ยังคงเป็นที่ 1 ในใจ ที่เป็นทางเลือกแรกๆ สำหรับคนที่อยากทำธุรกิจส่วนตัวอยู่เสมอ เพราะเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนไทย และนำมาซึ่งรายได้ที่ถ้าหากทำได้ดี ก็จะเติบโตได้อย่างมั่นคงไปทั้งชีวิต แต่อย่างไรก็แล้วตาม การทำธุรกิจร้านอาหาร หรือการเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเองนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องหมูๆ แต่เป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้ แก้ไขปรับปรุง และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ถึงจะอยู่รอดได้จนประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจ

ทั้งนี้ สำหรับใครก็ตามที่อยากระโจนเข้ามาสู่สังเวียนการแข่งขันอันดุเดือดของการทำร้านอาหารล่ะก็ 5 ข้อต่อจากนี้ไป คือสิ่งที่ควรรู้เบื้องต้น และจะเป็นเหมือนกับเข็มทิศตั้งต้นที่ทำให้เรามีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากขึ้นในการทำร้านอาหารในยุค 4.0 นี้

1. อย่าโฟกัสแต่ Know How ต้องมี Know Who ด้วย

อย่างที่บอกครับว่า การทำธุรกิจร้านอาหารนั้น ความรู้สำคัญมากๆ เพราะถ้าเราคิดแต่เพียงว่า “รู้วิธีทำอาหาร” แต่ไม่รู้วิธี “ทำร้านอาหาร” เลย มันจะเป็นอะไรที่ยากมาก เพราะการทำอาหารไม่เหมือนกับการบริหารร้านอาหาร ที่ต้องมีการคิดคำนวณต้นทุน หาจุดคุ้มทุน การควบคุมวัตถุดิบ คิดกำไร ราคา โปรโมชั่น ทำบัญชี จัดสต็อก และอีกมากมายสารพัด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าเราโฟกัสแต่ Know How อย่างเดียวก็คงไม่พอ

เพราะสิ่งสำคัญอีกข้อที่ทุกร้านอาหารต้องรู้คือ “Know Who” คือรู้ว่า “เราจะขายให้ใคร” หรือ “ใครคือลูกค้าเรากันแน่” ไม่มีอาหารจานไหนเหมาะกับลูกค้าทุกคน ไม่ใช่ทุกคนที่ชอบกินเสต๊กราคาแพง และเช่นกันไม่ใช่ทุกวัย ที่จะชอบกินฮันนี่โทสต์ ฯลฯ ดังนั้น ก่อนเริ่มต้นทำร้านอาหาร เราต้องแน่ชัดเสียก่อนแล้วว่า “ร้านของเรานั้นเกิดมาเพื่อกลุ่มเป้าหมายกลุ่มไหน” เพราะสิ่งนี้จะทำให้เราสามารถ โฟกัส Know How ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะวิธีการขายอาหารให้ถูกใจวัยรุ่น กับวัยผู้ใหญ่ ก็ไม่อาจใช้วิธีเดียวกันได้

2. อย่าเพิ่งรีบเปิดร้านไว ถ้ายังหาจุดขายที่ใช่ไม่เจอ

“อาหารอร่อย” ไม่ใช่ “จุดขาย” ของร้าน เพราะถ้าจะเปิดร้านอาหารแล้วทำอาหารไม่อร่อย น่าจะไม่ควรเริ่มต้นเปิดตั้งแต่แรกมากกว่า “จุดขาย” คือ “ความโดดเด่นที่แตกต่าง” ที่ทำให้ร้านของเราพิเศษกว่าร้านอื่นๆ และทำให้ร้านอาหารของเราพิเศษที่สุดในสายตาของกลุ่มเป้าหมาย อาจเป็นได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น อาหารที่ถูกที่สุด จานใหญ่ที่สุด จัดจานสวยที่สุด ร้านสวยที่สุด อิ่มคุ้มที่สุด ฯลฯ

เราจำเป็นต้องค้นหาให้เจอจุดขายที่ใช่ให้ได้ เพราะ “จุดขายที่แตกต่างไม่เหมือนใครหรือเลียนแบบได้ยากนี้เอง” ที่จะเป็นตัวดึงดูดให้ลูกค้าเข้าร้านเรา และถ้ามันใช่มันโดน ก็จะพาให้ร้านเราก้าวกระโจนสู่ความสำเร็จได้ง่ายมากขึ้น

3. อยู่ในยุคนิยมแชะแล้วแชร์ ก็ต้องดูแลให้ร้านอาหารแชะแชร์ได้

โลกโซเซียลในยุค 4.0 คือประตูโอกาสที่นำพาร้านอาหารน้องใหม่ไปสู่ความสำเร็จได้ไวขึ้นกว่าเดิมหลายสิบหลายร้อยเท่า เพราะบ่อยครั้ง เพียงแค่ภาพถ่ายวีดีโอ หรือภายถ่ายอาหารในร้านเราเพียงแค่จานเดียว ที่ถูกแชร์ลงไปบนโลกโซเชียล อาจทำให้ร้านโนเนมธรรมดาๆ กลายเป็นร้านที่แม้กระทั่งดารายังต้องตามหาและดั้นด้นมาใช้บริการให้ได้

ดังนั้นแล้ว เพื่อให้สอดคล้องกับยุคสมัย ที่สามารถใช้กระแสความนิยมการถ่ายภาพ แชะ แชร์ลงโซเชียลในปัจจุบันเป็นโอกาสได้นั้น ไม่ว่าจะเป็นร้านของเรา เมนูอาหารของเรา ทุกพื้นที่ ทุกจาน ควรได้รับการรังสรรค์ออกมาให้สามารถถ่ายรูปได้ สร้างความประทับใจได้ เพราะยิ่งลูกค้าที่มาทานยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปและแชร์บนโซเชียลของตัวเองมากแค่ไหน ร้านก็ยิ่งมีโอกาสได้รับการอุดหนุนมากขึ้นเท่านั้น ที่สำคัญก็คือ เป็นการโฆษณาทำการตลาด โดยที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุนด้านการตลาดเลยด้วย

leisure, technology and people concept – group of happy international friends with smartphones at restaurant table

4. ทำออนไลน์ ถ้าไม่พร้อมอย่าเปิดช่องให้ถูกวิจารณ์

แม้โลกโซเชียล โลกออนไลน์จะทำมาซี่งโอกาส แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นดาบสองคม ที่สามารถทำลายร้านอาหารในพริบตาได้เช่นกัน โดยเฉพาะการเปิดเพจร้านอาหารที่ต้องการทำการตลาดให้คนเข้าร้านเยอะๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสำหรับมือใหม่ ควรปิดระบบการให้คำวิจารณ์ไว้ก่อนจะดีที่สุด เพราะหากเปิดระบบให้วิจารณ์ได้เอาไว้ ทุกคำวิจารณ์ไม่ว่าจะดีหรือร้าย จะไม่สามารถลบได้ทั้งนั้น นั่นหมายความว่า ถ้ามีลูกค้ามาใช้บริการแล้วรู้สึกไม่โอเค ไปโพสต์เอาไว้ตรงช่องคำวิจารณ์ จะทำให้เวลามีใครเข้ามาในเพจเห็น ก็จะกลายเป็น “ไล่ลูกค้าไม่แทน”

ทั้งนี้ สำหรับการถูกคอมเม้นในโพสต์ เรายังพอซ่อน พอจัดการได้ นั่นจึงทำให้การปิดช่องคำวิจารณ์เป็นสิ่งที่ควรทำมากกว่า อย่างไรก็ดี สุดท้ายแล้วในเรื่องการแก้ไข การกลับไปพัฒนาคุณภาพอาหารและบริการในร้านให้ดีที่สุด ก็คือทางออกที่ดีที่สุด แต่อย่าลืมนะครับว่า ไม่ว่าเราจะดีแค่ไหน เราก็ไม่มีทาง “เป็นที่พอใจ” ของทุกคนได้อยู่ดี ดังนั้น ทางไหนปลอดภัยที่สุด ก็ควรที่จะเลือกทางนั้นดีกว่า

5. เก็บข้อมูลลูกค้าให้มากเข้าไว้ เพื่อเอาไว้ใช้ในการพัฒนาร้านตัวเอง

ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มเปิดร้านใหม่ๆ หรือเปิดมาแล้วมีประสบการณ์มาแล้วก็ตาม การเก็บข้อมูลลูกค้า สอบถามความคิดเห็น ความพอใจในรสชาติอาหาร บริการของร้าน ก็ยังถือเป็นสิ่งจำเป็นเสมอ เพราะข้อมูลเหล่านี้จะช่วยทำให้เรานำมาใช้ปรับปรุงแก้ไขให้ร้านเราดีมากยิ่งขึ้นได้ ซึ่งแน่นอนยิ่งทำให้ร้านประทับใจลูกค้าได้มากเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้ได้รับการตอบรับการอุดหนุนที่ดีมากขึ้นเท่านั้น

นอกจากนั้นแล้ว การให้ลูกค้าเข้ามาติดตามช่องทางออนไลน์ของร้าน ไม่ว่าจะเป็นเพจ หรือว่า Line@ ในยุคปัจจุบันถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะทำให้เราสามารถดูแลลูกค้าได้อย่างดี ส่งมอบโปรโมชั่น อัพเดทข่าวสาร นำเสนอสิทธิประโยชน์ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้ซ้ำ บอกต่อ ได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ร้านเติบโตได้อย่างมั่นคง เพราะต่อให้วันนี้ร้านเราไม่สามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ได้มากนัก แต่ถ้าลูกค้าเก่ารักและใช้บริการเราบ่อยๆ ซ้ำๆ อย่างเหนียวแน่นๆ ร้านเราก็อยู่ได้ต่อไปเช่นกัน

เส้นทางของการทำธุรกิจร้านอาหารนั้น ไม่เคยมีคำว่าง่ายเลย เพราะทุกๆ วันจะต้องพบเจอกับปัญหาและอุปสรรคมากมาย แต่ถึงแม้จะยากแค่ไหน การที่มีร้านอาหารจำนวนมากประสบความสำเร็จให้เราเห็นทุกๆ วัน ไม่ว่าจะร้านเล็กร้านใหญ่ เปิดให้บริการยาวนานมากได้เป็น 10 ปี 20 ปี นั่นก็เป็นเครื่องพิสูจน์ได้อย่างดีว่า เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ และสำหรับคนที่ประสบความสำเร็จได้นั้น ก็จะมีความสุข มีรายได้ที่มั่นคงในชีวิต

ดังนั้น ถ้าวันนี้เราคือคนหนึ่งที่ฝันอยากประสบความสำเร็จในธุรกิจร้านอาหาร การมุ่งมั่นทุ่มเทและตั้งใจเรียนรู้ พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ และไม่เผลอยอมแพ้ถอดใจไปก่อน จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำพาเราก้าวต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงจุดหมายปลายทางได้ในที่สุด

9eak
9eak
ทดสอบครับ

Related Articles

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

Stay Connected

0แฟนคลับชอบ
0ผู้ติดตามติดตาม
- Advertisement -spot_img

Latest Articles