ในช่วงวิกฤติโควิด 19 เราต่างเห็น ธุรกิจร้านอาหาร ดัง ๆ ได้ปิดตัวลง ไม่ว่าจะด้วยเรื่องของเศรษฐกิจบ้างล่ะ การมีมาตรการสร้างความปลอดภัยเรื่องเว้นระยะห่าง หรือการสั่งล็อคดาวน์
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ล้วนส่งผลให้รายได้ ธุรกิจร้านอาหาร ลดลง ลูกค้าเข้ามาใช้บริการกันน้อยลง สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารอย่างเราจะมีวิธีการรับมือกับปัญหานี้อย่างไร บทความนี้ มีคำตอบค่ะ
1.จัดการกับวัตถุดิบอาหาร
สำหรับวัตถุดิบอาหาร ถือว่าเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจร้านอาหารอย่างมาก ยิ่งร้านอาหารที่ต้องใช้วัตถุดิบสดใหม่ ทำวันต่อวัน หรือวัตถุดิบที่ลูกค้าไม่สามารถซื้อกลับไปทานที่บ้านได้ หากเกิดล็อคดาวน์แบบไม่ทันตั้งตัว คุณต้องคิดแล้วว่า
วัตถุดิบที่มีอยู่จะนำไปทำอะไรต่อได้บ้าง โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องทิ้งวัตถุดิบนั้น คุณอาจจะพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส โดยการทำอาหารแจกผู้คนที่ยากลำบาก ทำอาหารเลี้ยงพนักงาน หรือแจกเป็นวัตถุดิบให้กับพนักงานนำไปประกอบอาหารที่บ้าน
นอกจากคุณจะได้ช่วยเหลือผู้อื่นแล้ว พนักงานต้องรักคุณมากขึ้นอย่างแน่นอน เขาก็จะรู้สึกว่า ในเมื่อวันนี้คุณไม่ทิ้งเขา เขาก็จะไม่ทิ้งคุณเช่นกัน
หรืออีกวิธีหนึ่ง คือ ขายต่อผู้คนที่เขารับซื้อวัตถุดิบ อย่างที่ได้มีการประชาสัมพันธ์ในเพจเพื่อนแท้ร้านอาหารที่ คุณสตีฟ สรเทพ รับซื้อวัตถุดิบ เพื่อนำไปแจกคนตกงาน และบุคลากรทางการแพทย์
2.พูดคุยกับพนักงาน
นอกจากวัตถุดิบที่สำคัญแล้ว พนักงานในร้านอาหารก็เป็นสิ่งที่คุณควรให้ความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะการมีพนักงานจะทำให้ธุรกิจขับเคลื่อนได้เร็วขึ้น มีรายได้เพิ่มมากขึ้น
แต่ในช่วงที่พวกเราเผชิญวิกฤติโควิด-19 ทำให้หลาย ๆ ธุรกิจเลิกจ้างพนักงาน ด้วยสาเหตุต่าง ๆ สำหรับผู้ประกอบการที่ยังยืนหยัดสู้อยู่ คุณต้องสร้างขวัญกำลังใจให้แก่พนักงานด้วย
ถ้าสถานการณ์ไม่ดีขึ้น ก็ควรต้องพูดคุยกับพนักงาน เล่าถึงปัญหา ช่วยกันหาทางออก และอย่าลืมที่จะให้กำลังใจตนเองด้วยนะคะ แต่ถ้าธุรกิจร้านอาหารของคุณไปต่อไม่ไหวแล้ว
จำเป็นต้องปิดกิจการ หรือเลิกจ้างจริง ๆ ควรบอกพนักงานตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้เขาได้เตรียมตัว อาจจะมีเงินเยียวยา เพื่อที่เขาจะได้นำเงินไปประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองต่อได้
[irp posts=”12169″ name=”จดทะเบียนการค้า สำคัญกับผู้ประกอบการร้านอาหารอย่างไร”]
3.ให้ความสำคัญกับลูกค้า
ไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไร เป้าหมายของคุณคือ ลูกค้า เพราะลูกค้าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจของคุณเติบโต สิ่งที่ผู้ประกอบการและลูกค้าต้องทำในตอนนี้คือ การช่วยเหลือกันและกัน
อย่างผู้ประกอบการที่ขายวัตถุดิบ ก็ควรตั้งราคาที่ไม่สูงจนเกินไป ส่วนผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหาร ก็อาจจะจัดโปรโมชันลดราคาให้แก่ลูกค้า เพราะคุณอย่าลืมว่า ช่วงนี้ ไม่มีใครอยากออกไปข้างนอก เพื่อรับเชื้อไวรัส
ดังนั้น เมื่อลูกค้าไม่ออกจากบ้าน ทำไมคุณไม่นำอาหารไปเสิร์ฟถึงหน้าบ้านเลยล่ะ หรือที่ร้านอาหารอื่น ๆ เลือกใช้บริการเดลิเวอรี่ นอกจากนี้ คุณอาจจะจัดโปรโมชันเอาใจลูกค้า อย่างน้อยก็สามารถเพิ่มรายได้ให้กับคุณได้บ้าง
4.หาช่องทางเพิ่มรายได้
หากธุรกิจร้านอาหาร มีรายได้ลดลงจากเดิม สิ่งแรกเลย คุณต้องตั้งสติก่อน ค่อย ๆ คิด ว่าจะทำอะไรต่อ ยิ่งถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจคนเดียว ยิ่งตัดสินใจได้ง่ายเลยค่ะ อาจจะสังเกตจากตนเองก่อนว่า ถนัดอะไร หรือเวลาว่าง ๆ ชอบทำอะไร และนำตรงนั้น มาเป็นจุดสร้างรายได้
อย่าง GAP แบรนด์เครื่องแต่งกายชื่อดังจากนิวยอร์กก็ได้ปรับเปลี่ยนมาผลิตเสื้อกาวน์ อย่างร้านกาแฟก็หาช่องทางเพิ่มรายได้ โดยการขายเครื่องชงกาแฟสด และการันตีอีกว่า เหมือนได้ดื่มกาแฟแก้วโปรดจากร้านที่ชงจากบาริสต้ามืออาชีพ
หรือร้านอาหารใช้บริการเดลิเวอรี่ เพื่อเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น แต่ถ้าคุณมีเพื่อนที่รู้จักทำธุรกิจร้านอาหารเหมือนกัน คุณก็อาจจะใช้วิธีการฝากขายก็ถือเป็นทางออกที่ดีเลย
5.เจรจาเรื่องค่าเช่าสถานที่
ถ้าทำเลดี ผู้คนสัญจรเยอะ ค่าเช่าสถานที่ก็จะมีราคาแพงตามไปด้วย สำหรับผู้ประกอบการที่เช่าสถานที่เปิดร้านอาหาร ถ้ารายได้ของคุณไม่ได้เท่าเดิม คุณควรจะลองคุยกับทางเจ้าของสถานที่ดูค่ะ อธิบายถึงเหตุผล อาจจะขอผ่อนในจำนวนเงินเท่านี้ เชื่อว่า เขาต้องเข้าใจอย่างแน่นอน
ด้วยสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ คือ การให้กำลังใจ การช่วยเหลือกันและกัน คุณท้อได้ แต่คุณก็ต้องลุกขึ้นมาสู้ให้ได้เช่นกันค่ะ
